บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลต่างๆ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน
เนื่องด้วยเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ
หรือ โดยได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเนื่องด้วยเหตุอันชอบด้วยกฎหมายอื่นๆ ทั้งนี้
เท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ อาจทำให้บริษัทฯ
ไม่สามารถ อำนวยความสะดวกหรือ จัดกิจกรรมต่างๆ
หรือติดต่อสื่อสารกับท่านได้ในบางกรณี ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับการสมัครงาน
การทำงาน สถานะความเป็นลูกจ้าง
หรือผลประโยชน์/สัวสดิการที่ท่านอาจได้รับจากบริษัทฯ
5.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย มีดังนี้
สำหรับผู้สมัครงาน
ในขั้นตอนการสมัครงานของท่านกับบริษัทฯ
รวมถึงขั้นตอนการพิจารณาที่เกี่ยวข้องก่อนการจ้างงาน
บริษัทฯทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลต่างๆของท่านตามประเภทข้อมูล
ดังต่อไปนี้ทั้งที่ปรากฏในใบสมัครงานหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลทั่วไป
เช่น คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล (ภาษาอังกฤษ+ไทย) ภาพถ่าย
เลขบัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ สำเนาใบอนุญาตขับขี่
สถานการณ์เกณฑ์ทหาร
ข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์อีเมล์ที่อยู่ปัจจุบัน
ข้อมูลการเกิด
เช่น วันเดือนปีเกิด สถานที่เกิด
ข้อมูลชีวิตครอบครัวเช่น สถานภาพการสมรส
รายละเอียดสมาชิกครอบครัว
ข้อมูลการศึกษาและทักษะเช่น ระดับการศึกษาและผลการศึกษา
ทักษะอื่นๆ
ข้อมูลประวัติการทำงาน เช่น ประสบการณ์การทำงาน
ประสบการณ์ฝึกงาน
ข้อมูลด้านร่างกาย เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก ข้อจำกัดทางกายภาพ
ผลการตรวจสุขภาพของท่าน ที่บริษัทฯ
ได้รับจากโรงพยาบาลที่ท่านได้เข้ารับการตรวจ
ในกรณีหรือตำแหน่งงานที่จำเป็น
ข้อมูลด้านประวัติอาชญากรรม เช่น
ผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของท่านที่บริษัท ฯ
ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีหรือตำแหน่งงานที่จำเป็น
ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
ตามที่บริษัทฯจะจัดเก็บจากท่านตามวัตถุประสงค์ ในข้อ 3
สำหรับพนักงาน
เมื่อท่านผ่านการพิจารณาและอนุมัติให้เป็นพนักงานของบริษัทฯ แล้ว
บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลของ ท่านโดยตรงเมื่อมีการทำสัญญาจ้างพนักงาน
โดยบริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมเอกสารที่มีข้อมูล ส่วนบุคคลและข้อมูลต่างๆ
ของท่านเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
สำเนาหลักฐานการศึกษา (Transcript)
สำเนาทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน
หนังสือรับรองการผ่านงาน
สำเนาบัญชีธนาคาร
สำเนาผลสอบ
TOEIC อายุไม่ เกิน 1 ปี (ถ้ามี), สำเนาใบ กว. (ถ้ามี)
หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่ จ่าย (ถ้ามี)
สำเนาบัตรประจำตัวผู้พิการ (ถ้ามี)
ภาพถ่าย
รายละเอียดสมาชิกครอบครัว
รายละเอียดบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ตามที่ บริษัทฯ จะจัดเก็บจากพนักงาน
ตามวัตถุประสงค์ ในข้อ 3
5.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คือ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ เช่น
ข้อมูลของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นและการได้ยิน
ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ (Biometric) ซึ่งบริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้
และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ
ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด
6. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังนี้
มาจากเจ้าของข้อมูล คือ ผู้สมัครงาน และหรือ พนักงาน
หรืออาจมาจากบริษัทจัดหางาน ที่ปรึกษาการจัดหางานที่บริษัทฯ
เข้าทำสัญญาด้วย
7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท
เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศนี้
โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลอื่น เช่น
บริษัทจัดทำเงินเดือน บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล เป็นต้น
8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับผู้สมัครงาน
บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เป็นระยะเวลา
1 ปี นับจากวันที่ผู้สมัครงานให้ข้อมูลเพื่อการสมัครงาน
ซึ่งล่วงพ้นระยะเวลาดังกล่าว แล้ว บริษัทฯ จะลบ
ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ออกจากฐานข้อมูลของบริษัทฯ
สำหรับพนักงาน
เมื่อท่านเข้าเป็นพนักงานของบริษัทฯ บริษัทฯ
จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน
เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เป็นระยะเวลาตราบเท่าที่ท่านยังเป็นพนักงานของบริษัทฯ
และจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อเนื่องอีก
หลังจากที่ท่านสิ้นสุดการเป็นพนักงาน ทั้งนี้
เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อสิทธิประโยชน์ของท่าน หรือตามที่กฎหมายกำหนด
9. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านสามารถขอใช้สิทธิของท่านภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย
และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต
ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนด
9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม
เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะแล้ว
ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้
เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย
หรือเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
ทั้งนี้การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา
สอบถามถึงผลกระทบก่อนการดำเนินการใช้สิทธิดังกล่าว
หากการถอนความยินยอมของท่านทำให้บริษัทไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางอย่างให้แก่ท่านได้
บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม
ท่านสามารถติดต่อบริษัทและขอใช้สิทธิด้วยตัวท่านเองตามช่องทางที่บริษัทกำหนดไว้
เพื่อยื่นคำร้องและนำหลักฐานมาเพื่อการตรวจสอบ พิสูจน์
จนสามารถเชื่อได้ว่าท่านความเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจริง
ทั้งนี้บริษัทอาจปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิที่ไม่สุจริต/ไม่สมเหตุสมผล/ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง
หรืออาจปฏิเสธคำร้องขอของท่านตามหลักเกณฑ์อื่นใดที่กฎหมายกำหนด
9.2
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลและขอรับสำเนา
ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่
เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล
หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
9.3
สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก
หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก
เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค
หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
9.4 สิทธิขอคัดค้าน
ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า
หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
ทั้งนี้การใช้สิทธิคัดค้านของท่านอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้
เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท
9.5
สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี
เช่น
บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
หรือท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป
เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
9.6
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน
หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด
เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาสำหรับการให้บริการหรือมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
9.7
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์
และทำให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบันได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย
10. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย และวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัท
ในกรณีที่บริษัทให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดำเนินการแทนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะกำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดังกล่าว เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอย่างเคร่งครัด รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการอื่นใด โดยไม่มีอำนาจ หรือโดยขัดต่อกฎหมาย
11. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม
บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้
12. ช่องทางการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือต้องการขอใช้สิทธิตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อบริษัทตามช่องทางดังต่อไปนี้
ที่อยู่สำนักงานใหญ่ 719/5, 8-9 ถนนพระรามที่ 6 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
13. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของ
www.netbay.co.th