alternative

ประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

สำหรับผู้สมัครงานและพนักงาน

บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน)


                บริษัทเน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) ขอแนะนำให้ท่านทำความเข้าใจประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (privacy notice) นี้ เนื่องจาก ประกาศนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย มาตราการการรักษาความปลอดภัย รวมถึงสิทธิต่างๆ ของท่าน ในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทดังต่อไปนี้

1. คำนิยาม

“บริษัท” หมายถึง บริษัทเน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน)
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่สามารถหรืออาจจะระบุตัวตนของท่าน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กฎหมายและ กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

2. บุคคลที่เกี่ยวข้อง

ประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นี้ใช้สำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
-       ผู้สมัครงาน ในการพิจารณาใบสมัครของผู้สมัครงานที่บริษัทฯ ได้รับในช่องทางต่างๆ บริษัทฯ อาจทำการจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้สมัครงานเท่าที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาการจ้างงาน นอกจากนั้น บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเท่าที่จำเป็นให้กับบริษัทในเครือ เพื่อพิจารณาและเสนอตำแหน่งที่เหมาะสมกับผู้สมัครงานอันเป็นการเพิ่มโอกาสการจ้างงานให้แก่ผู้สมัครงาน
-       พนักงาน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นให้กับบริษัทในเครือ หรือผู้ให้บริการต่างๆ และบริษัทคู่ค้า เช่น บริษัทประกันภัย ตัวแทนประกันภัย โรงพยาบาล ที่ปรึกษา โรงแรม สายการบิน สถาบันหรือ ผู้จัดอบรม หรือ ผู้ให้บริการไปรษณีย์พัสดุเป็นต้น รวมถึง การเปิดเผยข้อมูลอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลตามข้อ 3

3. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ ดังนี้
          สำหรับผู้สมัครงาน บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลต่างๆ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องด้วยเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ หรือ โดยได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเนื่องด้วยเหตุอันชอบด้วยกฎหมายอื่นๆ ทั้งนี้ เท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ใน การติดต่อสื่อสารเพื่อการนัดหมาย การสัมภาษณ์งาน และวัตถุประสงค์ในการพิจารณาตรวจสอบความเหมาะสม ของผู้สมัครงานในการจ้างงาน รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิจารณาและเสนอตำแหน่งที่เหมาะสมอื่นๆ ในบริษัทฯ และบริษัทในเครือ ให้กับผู้สมัครงานอันเป็นการเพิ่มโอกาสการจ้างงานให้แก่ผู้สมัครงาน
          สำหรับพนักงาน บริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลต่างๆ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน เนื่องด้วยเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และบริษัทในเครือ หรือ โดยได้รับความยินยอมจากท่าน หรือเนื่องด้วยเหตุอันชอบด้วยกฎหมายอื่นๆ ทั้งนี้ เท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
  • เพื่อการจ้างงาน การจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ รวมถึงด้านสุขภาพ
  • เพื่อการพัฒนาและฝึกอบรมบุคคล
  • เพื่อการจัดการความปลอดภัย
  • เพื่อการจัดการกรณีพนักงานต้องไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
  • เพื่อการจัดกิจกรรมนันทนาการ
  • เพื่อการจัดการระบบทะเบียนประวัติพนักงาน
  • เพื่อการจัดการระบบประเมินผลการปฏิบัติงาน
  • เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานในการพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล
  • เพื่อการติดต่อ สื่อสาร ส่งไปรษณีย์พัสดุ
  • เพื่อปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม และ/หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  • เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  • เพื่อการจัดการระบบประเมินผลการปฏิบัติงาน
  •           หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ อาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถ อำนวยความสะดวกหรือ จัดกิจกรรมต่างๆ หรือติดต่อสื่อสารกับท่านได้ในบางกรณี ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับการสมัครงาน การทำงาน สถานะความเป็นลูกจ้าง หรือผลประโยชน์/สัวสดิการที่ท่านอาจได้รับจากบริษัทฯ

    4.ฐานทางกฎหมาย

    บริษัทอาจใช้ฐานทางกฎหมายต่างๆ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เช่น ฐานสัญญา ฐานประโยชน์โดยชอบธรรม หรือบริษัทฯ อาจขอความยินยอมจากท่านเป็นรายกรณีไป

    5.ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

          5.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย มีดังนี้
    สำหรับผู้สมัครงาน
               ในขั้นตอนการสมัครงานของท่านกับบริษัทฯ รวมถึงขั้นตอนการพิจารณาที่เกี่ยวข้องก่อนการจ้างงาน บริษัทฯทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลต่างๆของท่านตามประเภทข้อมูล ดังต่อไปนี้ทั้งที่ปรากฏในใบสมัครงานหรือเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อมูลทั่วไป เช่น คำนำหน้า ชื่อ นามสกุล (ภาษาอังกฤษ+ไทย) ภาพถ่าย เลขบัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สถานการณ์เกณฑ์ทหาร
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์อีเมล์ที่อยู่ปัจจุบัน
  • ข้อมูลการเกิด เช่น วันเดือนปีเกิด สถานที่เกิด
  • ข้อมูลชีวิตครอบครัวเช่น สถานภาพการสมรส รายละเอียดสมาชิกครอบครัว
  • ข้อมูลการศึกษาและทักษะเช่น ระดับการศึกษาและผลการศึกษา ทักษะอื่นๆ
  • ข้อมูลประวัติการทำงาน เช่น ประสบการณ์การทำงาน ประสบการณ์ฝึกงาน
  • ข้อมูลด้านร่างกาย เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก ข้อจำกัดทางกายภาพ ผลการตรวจสุขภาพของท่าน ที่บริษัทฯ ได้รับจากโรงพยาบาลที่ท่านได้เข้ารับการตรวจ ในกรณีหรือตำแหน่งงานที่จำเป็น
  • ข้อมูลด้านประวัติอาชญากรรม เช่น ผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของท่านที่บริษัท ฯ ได้รับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีหรือตำแหน่งงานที่จำเป็น
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ตามที่บริษัทฯจะจัดเก็บจากท่านตามวัตถุประสงค์ ในข้อ 3

  • สำหรับพนักงาน
               เมื่อท่านผ่านการพิจารณาและอนุมัติให้เป็นพนักงานของบริษัทฯ แล้ว บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลของ ท่านโดยตรงเมื่อมีการทำสัญญาจ้างพนักงาน โดยบริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมเอกสารที่มีข้อมูล ส่วนบุคคลและข้อมูลต่างๆ ของท่านเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาหลักฐานการศึกษา (Transcript)
  • สำเนาทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน
  • หนังสือรับรองการผ่านงาน
  • สำเนาบัญชีธนาคาร
  • สำเนาผลสอบ TOEIC อายุไม่ เกิน 1 ปี (ถ้ามี), สำเนาใบ กว. (ถ้ามี)
  • หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่ จ่าย (ถ้ามี)
  • สำเนาบัตรประจำตัวผู้พิการ (ถ้ามี)
  • ภาพถ่าย
  • รายละเอียดสมาชิกครอบครัว
  • รายละเอียดบุคคลที่ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ตามที่ บริษัทฯ จะจัดเก็บจากพนักงาน ตามวัตถุประสงค์ ในข้อ 3
  •     5.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ เช่น ข้อมูลของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นและการได้ยิน ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ (Biometric) ซึ่งบริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด

    6. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังนี้
    มาจากเจ้าของข้อมูล คือ ผู้สมัครงาน และหรือ พนักงาน หรืออาจมาจากบริษัทจัดหางาน ที่ปรึกษาการจัดหางานที่บริษัทฯ เข้าทำสัญญาด้วย

    7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น

                     บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท เว้นแต่เป็นการเปิดเผยเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในประกาศนี้ โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลอื่น เช่น บริษัทจัดทำเงินเดือน บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล เป็นต้น

    8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

    สำหรับผู้สมัครงาน
               บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานเพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ผู้สมัครงานให้ข้อมูลเพื่อการสมัครงาน ซึ่งล่วงพ้นระยะเวลาดังกล่าว แล้ว บริษัทฯ จะลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ออกจากฐานข้อมูลของบริษัทฯ

    สำหรับพนักงาน
               เมื่อท่านเข้าเป็นพนักงานของบริษัทฯ บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงาน เพื่อใช้งานตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้เป็นระยะเวลาตราบเท่าที่ท่านยังเป็นพนักงานของบริษัทฯ และจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อเนื่องอีก หลังจากที่ท่านสิ้นสุดการเป็นพนักงาน ทั้งนี้ เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อสิทธิประโยชน์ของท่าน หรือตามที่กฎหมายกำหนด

    9. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

                     ท่านสามารถขอใช้สิทธิของท่านภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนด
    9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม
    เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดโดยเฉพาะแล้ว ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษา สอบถามถึงผลกระทบก่อนการดำเนินการใช้สิทธิดังกล่าว หากการถอนความยินยอมของท่านทำให้บริษัทไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางอย่างให้แก่ท่านได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม ท่านสามารถติดต่อบริษัทและขอใช้สิทธิด้วยตัวท่านเองตามช่องทางที่บริษัทกำหนดไว้ เพื่อยื่นคำร้องและนำหลักฐานมาเพื่อการตรวจสอบ พิสูจน์ จนสามารถเชื่อได้ว่าท่านความเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจริง ทั้งนี้บริษัทอาจปฏิเสธคำร้องขอใช้สิทธิที่ไม่สุจริต/ไม่สมเหตุสมผล/ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง หรืออาจปฏิเสธคำร้องขอของท่านตามหลักเกณฑ์อื่นใดที่กฎหมายกำหนด

    9.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูลและขอรับสำเนา
    ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น

    9.3 สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
    ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่บริษัทไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือบริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย

    9.4 สิทธิขอคัดค้าน
    ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น บริษัทสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท ทั้งนี้การใช้สิทธิคัดค้านของท่านอาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท

    9.5 สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูล
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี เช่น บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

    9.6 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด เว้นแต่กรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญาสำหรับการให้บริการหรือมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน

    9.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
    ท่านมีสิทธิขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ และทำให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย

    10. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล

                    บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย และวิธีปฏิบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัท
                    ในกรณีที่บริษัทให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดำเนินการแทนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะกำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดังกล่าว เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอย่างเคร่งครัด รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการอื่นใด โดยไม่มีอำนาจ หรือโดยขัดต่อกฎหมาย

    11. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

                    บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้บริษัทเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

    12. ช่องทางการติดต่อ

                     หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือต้องการขอใช้สิทธิตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อบริษัทตามช่องทางดังต่อไปนี้


    ที่อยู่สำนักงานใหญ่ 719/5, 8-9 ถนนพระรามที่ 6 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

    เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    อีเมล dpo@netbay.co.th

    13. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

               บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของ www.netbay.co.th